กินคลีนคืออะไร ทำไมคนถึงสนใจ

ขณะนี้ถ้าหากได้เข้ากลุ่มชิทแชท คุยไลน์ หรือตามข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์กกับสหายสาวสุดเฮลตี้แล้วล่ะก็ Topic ที่แต่ละนางภูมิใจเสนอต้องมีคำว่า “กินคลีน อาหารคลีน” พร้อมกันไปกับการเข้าฟิตเนส เวทเทรนนิ่งเก๋ๆหรือคลาสฟลายอิ้งโยคะ ให้ท่านได้ยินบ้างไม่มากมายก็น้อยแต่ท่านเคยคิดไหมว่าิาหารคลีนคืออะไร
กินคลีนเป็นยังไง?
พวกเราจำต้องทำความเข้าใจความหมายของคำว่า ‘อาหารคลีน’ กันก่อน อาหารคลีนคือการกินอาหารที่ผ่านขั้นตอนการดัดแปลงรวมทั้งปรุงแต่งน้อยที่สุด มันเป็นการคืนสู่ต้นแบบของกินที่เรียบง่าย มาจากธรรมชาติเยอะที่สุด เพื่อวัตถุดิบยังคงเป็นวัตถุดิบที่ทรงไว้ซึ่งสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ แนวความคิดนี้บางทีอาจได้ยินในภาษาอังกฤษ คือคำว่า Whole Food
พวกเราทราบกันอยู่แล้วว่าของกินที่พวกเรากินกันเวลานี้ผ่านวิธีการต่างๆมามากมาย ก่อนที่จะเสิร์ฟอยู่บนจานของพวกเรา ตั้งแต่กรรมวิธีการแช่แข็ง ดัดแปลง ใส่สารกันเสีย ใส่สี กลิ่น รส หรือแม้กระทั้งเพิ่มวิตามินรวมทั้งแร่ธาตุต่างๆรวมถึงอาหารที่ถูกปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงจากเวอร์ชั้นธรรมชาติของมัน อย่างหมูแฮม ไส้กรอก แยม ขนมปังขาวเนียน ข้าวขัดสี จนกระทั่ง น้ำตาล เกลือ หรือของกินที่ผ่านความร้อนจากการต้ม ผัด นึ่ง ก็ถือว่าเป็นของกินที่ถูกแปรรูปมาแล้วด้วยเหมือนกัน

กินคลีนไปเพื่ออะไร?
พวกเราหวังกินคลีนก็เพื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่ว่ามันช่วยทำให้พวกเราร่างกายแข็งแรงขึ้นยังไง? ข้อแรกเป็น อาหารแปรรูปจัดๆที่ต้มนานๆทอดนานๆผ่านการแช่ บีบ อัด ด้วยขั้นตอนการหลากหลาย ใส่สารเคมีที่เราไม่อาจจะจำชื่อได้ จนถึงไม่เหลือแล้วซึ่งคุณประโยชน์ บอกกันตรงๆคือ มันไม่ใช่อาหารจริงๆแล้วด้วยซ้ำ
ต่อเนื่องมาที่เหตุผลข้อสองว่า ของกินที่ผ่านการเปลี่ยนรูปมากจะก่อให้ร่างกายเราได้รับสารที่ก่อเกิดโรคตามมา ทั้งยังแคลอรี ไขมันสูง ที่อาจจะส่งผลให้เกิดโรคร้าย และร่างกายพวกเราก็เกือบจะไม่ได้รับสารอาหารใดๆเลย
ข้อสามเป็นอาหารแปรรูป โดยยิ่งไปกว่านั้นของกินที่มีจำนวนน้ำตาลสูง จะทำให้ระดับอินซูลินในเลือดพุ่งสูงและก็ตกลงอย่างรวดเร็ว ทำให้รับประทานแล้วอิ่มเร็วแล้วหลังจากนั้นก็หิวเร็ว รวมทั้งต้องการอาหาร (craving) ไม่จบสิ้น เนื่องจากร่างกายไม่ได้ย่อยสารอาหารจริงๆเสียทีเดียว ทำให้พวกเรายิ่งรับประทานเยอะและน้ำหนักเพิ่มขึ้น
ผมไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่า การกินคลีนจะก่อให้พวกเราปราศจากจากโรคภัย แต่ว่าการดูแลร่างกายให้ดี รับประทานวัตถุดิบแบบมีเนื้อ และผักใบเขียวจริงๆย่อมให้สารอาหาร วิตามิน แล้วก็แร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ ทำให้พวกเรามีสารอาหารไปเลี้ยงร่างกายเพียงพอ ขับถ่ายดี ระบบภายในร่างกายทำงานอย่างมีคุณภาพ ถ้าเกิดต้องการพิสูจน์ว่าการรับประทานคลีนจะก่อให้ร่างกายพวกเราเปลี่ยนไปยังไง ก็ขอให้ทดลองไปตรวจเลือดก่อนและหลังปรับเปลี่ยนการกิน รวมทั้งจะพบว่ามันน่าทึ่งแค่ไหน หรือลองสังเกตผิวพรรณ เส้นผมของพวกเรา ที่จะสวยงามเปล่งปลั่ง รู้สึกมีชีวิตชีวา แถมอารมณ์ดีมากขึ้นด้วย
สนับสนุนการจัดทำโดย เกมสล็อต ออนไลน์w88เว็บพนันที่กำลังมาแรงในขณะนี้
“ชา”ที่คนชื่นชอบกับจุดเริ่มต้น

ในช่วงฤดูที่อากาศหนาวเย็นในประเทศญี่ปุ่น ถ้าได้ดื่มชาเขียวร้อนๆซักถ้วยก็น่าจะอบอุ่นไม่น้อย ไม่เฉพาะแต่ญี่ปุ่นที่นิยมดื่มชาเขียวเพียงแค่นั้น ประเทศอื่นๆทั่วทั้งโลกก็หันมานิยมดื่มชาเขียวกันจำนวนมากอีกด้วย ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกันการดื่มชาเขียว หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของชาเขียวก็ได้รับการตอบรับที่ดีด้วยเหมือนกัน พูดได้ว่ามีผลิตภัณฑ์ต่างๆออกมาอย่างล้นหลามเลยทีเดียว ที่ประเทศจีนเค้าก็ดื่มชาเขียวกันเพราะว่าพิสูจน์แล้วว่าสามารถรักษาโรคได้ และที่ญี่ปุ่นนอกเหนือจากเป็นสมุนไพรรวมทั้งชงดื่มในชีวิตประจำแล้ว ชาวญี่ปุ่นเช้าใจกันว่า ชาเขียว เป็นอะไรได้มากกว่านั้น
ชาเขียวมีต้นกำเนิดมาจากเมืองจีนกว่า 4,000 ปีมาแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งเมื่อ 2,737 ปีกลายคริสต์ศักราช ชาได้ถูกค้นพบโดยจักรพรรดินามว่า เสินหนง ซึ่งเป็นบัณฑิตรวมทั้งนักสมุนไพร ผู้รักความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง ดื่มเฉพาะน้ำต้มสุกเพียงแค่นั้น วันหนึ่งช่วงเวลาที่เสินหนงกำลังพักอยู่ใต้ต้นชาในป่า รวมทั้งกำลังต้มน้ำอยู่นั้น ปรากฏว่าลมได้โบกกิ่งไม้ ส่งผลให้ใบชาหล่นลงในน้ำซึ่งใกล้เดือดพอดิบพอดี เมื่อเขาทดลองดื่มก็เกิดความรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก ชาเขียวถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในตอนศตวรรษต่างๆดังต่อไปนี้
ช่วงศตวรรษที่ 3
ชาเป็นยา เป็นเครื่องชูกำลังยอดนิยมมากมายในช่วงศตวรรษที่3ราษฎรก็เริ่มหันมาปลูกชากันและพัฒนาแนวทางการผลิตมาเรื่อยๆ
ช่วงศตวรรษที่ 4 และ 5
ชาในประเทศจีนเป็นที่นิยมมากเพิ่มขึ้นรวมทั้งได้ผลิตชาในรูปของการอัดเป็นแผ่นเป็น การนำใบชามานึ่งก่อน แล้วหลังจากนั้นก็นำมา ทับ ในยุคนี้ได้นำน้ำชาถึงมามอบเป็นของขวัญแก่พระจักรพรรดิ
สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618 – 906)
นับว่าเป็นยุคทองของชา ชาไม่ได้ดื่ม เพื่อเป็นยาบำรุงกำลังเพียงอย่างเดียว แต่ว่ามีการดื่มเป็นประจำทุกๆวัน เป็นการดื่มเพื่อสุขภาพ
สมัยราชวงศ์ซ้อง (ค.ศ. 960 – 1279)
ชาได้เพิ่มเครื่องเทศแบบใน สมัยราชวงศ์ถังแม้กระนั้นจะเพิ่มรสบางๆดังเช่น น้ำมันจากดอกมะลิ ดอกบัว รวมทั้งดอกเบญจมาศ
สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368 – 1644)
ชาที่ปลูกลงในจีนทั้งหมดเป็นชาเขียว สมัยนั้นขั้นตอนการผลิตชาได้พัฒนาขึ้นไปอีก ไม่อัดเป็นแผ่น แต่ว่ามี การรวบรวมใบชา เอามานึ่ง แล้วก็อบแห้ง ซึ่งจะเก็บได้ไม่ดีนัก สูญเสียกลิ่นได้ ง่าย และก็รสไม่ดี ในช่วงศตวรรษที่ 17 มีการค้าขายกับชาวตะวันตก การผลิตเพื่อจะรักษาประสิทธิภาพชาให้นานขึ้น โดยได้คิดค้นขั้นตอนที่ พวกเราเรียกว่า การหมัก เมื่อหมักรวมทั้งจะนำไปอบ ซึ่งก็เป็นสาเหตุของชาอูหลง แล้วก็ชาดำ ในประเทศจีน มีการแต่งกลิ่นด้วย โดยเฉพาะกลิ่นดอกไม้

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับชานิดๆหน่อยๆชาเขียว ชาอูหลง แล้วก็ชาดำ ต่างกันเช่นไร ?
– ชาเขียว ภายหลังจากเก็บเกี่ยวแล้วจะนำใบชามาอบไอน้ำด้วยอุณหภูมิสูงโดยทันที เพื่อทำให้ใบชาแห้ง ใบชาที่ได้จากการอบจะยังคงมีสีเขียวรวมทั้งคงคุณค่าสารอาหารได้ดีเยี่ยม เพราะฉะนี้ ชาเขียว ก็เลยได้รับความนิยมมากมายสำหรับในการดื่มเพื่อสุขภาพเพื่อช่วยต้านการเกิดโรคมะเร็งแล้วก็ ล้างพิษภายในร่างกายได้อีกด้วย
– ชาอูหลง ภายหลังเก็บเกี่ยวจะนำใบชามาตากแดดจนกระทั่งเป็นสีน้ำตาล ทำให้ใบชาเกิดกรรมวิธีการหมักตัวทำให้มีรสชาติแล้วก็กลิ่นหอมสดชื่นเข้มข้น เป็นชาที่ไม่มีรสชาติและไม่มีน้ำตาล เหมาะกับคนที่ต้องการลดความอ้วน
– ชาดำ หลังเก็บเกี่ยวจะนำใบชามาไปบดด้วยลูกกลิ้งก่อน อบด้วยละอองน้ำหรือเป่าด้วยความร้อน และก็นำไปผึ่งแดดจนกระทั่งเป็นสีดำ เอามาบดหรือหั่นก็ได้ การดื่มชาดำยังช่วยลดการเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคหัวใจได้ด้วย
สนับสนุนการจัดทำโดย เว็บพนันออนไลน์ w88ที่ดีที่สุดและมีเกมส์ให้เลือกสันมากมาย
ใน”น้ำมันปลา”มีข้อดีเยอะแค่ไหนมาดูกัน

บางท่านอาจจะรู้อยู่แล้วว่าน้ำมันปลามีส่วนช่วยบรรเทาอาการอักเสบ รวมทั้งช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วน้ำมันปลาเป็นประโยชน์เยอะมากที่บางคนอาจจะนึกไม่ถึง วันนี้ w88 พาทุกท่านมาดูที่มาของน้ำมันปลา
น้ำมันปลา (FishOil) เป็นไขมันหรือน้ำมันที่สกัดจากเยื่อของปลาบางประเภทอย่างปลาแมกเคอเรล ปลาเฮอร์ริง ปลาทูน่า แล้วก็ปลาแซลมอน แต่ว่าหลายๆคนอาจไม่ทราบว่าน้ำมันปลานั้นมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย เนื่องจากว่า น้ำมันปลาคือสารอาหารกลุ่มไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งสกัดได้จากส่วนต่างๆ(ยกเว้นจากตับ) ของปลาทะเลบางประเภท สารสำคัญในน้ำมันปลาที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่ม “โอเมก้า-3” น้ำมันปลาที่มีสภาพเป็นน้ำมันบริสุทธิ์หรือเป็นไตรกลีเซอไรด์บริสุทธิ์จะมีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกลุ่มโอเมก้า-3 ไม่น้อยกว่าจำนวนร้อยละ 20 ของปริมาณกรดไขมันทั้งปวง
ผลดีต่อระบบหัวใจและก็สมอง
‘น้ำมันปลา’ มีส่วนช่วยยับยั้งการยึดตัวของเกล็ดเลือดและลดไขมันในเลือด จึงช่วยปกป้องการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจและก็สมอง
ผลดีต่อระบบหลอดเลือด
‘น้ำมันปลา’ มีส่วนช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตภายในร่างกายดียิ่งขึ้น ลดการเต้นของชีพจรที่ไม่ปกติ
ผลดีเกี่ยวกับความดันโลหิตของร่างกาย
เนื่องจาก Omega-3 มีส่วนช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดภายในร่างกายดียิ่งขึ้น จึงส่งผลให้ความดันลดลง โดยที่น้ำมันปลาจะไม่มีผลต่อความดันในคนที่มีความดันเลือดปกติแต่อย่างใด
ช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด
‘น้ำมันปลา’ เหมาะกับคนที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง เพราะเหตุว่าจากผลการค้นคว้าทางด้านการแพทย์ระบุไว้ว่าสามารถช่วยลดไขมันร้ายดังที่ได้กล่าวมาแล้วได้ 20% – 50% ที่สำคัญ คือ ปลอดภัย ไม่เป็นผลข้างเคียงต่อสุขภาพร่างกาย สามารถใช้ร่วมกับยาสำหรับเพื่อการลดระดับไขมันในคนที่มีไขมันในเลือดสูงได้

ลดปัญหาอาการข้อเสื่อม ข้อรูมาตอยด์
กรดไขมัน Omega-3 สามารถช่วยลดอาการอักเสบ อาการตึงแน่น และอาการข้อยึดตอนเช้า ในคนที่มีสภาวะข้อเสื่อมรวมทั้งข้ออักเสบรูมาตอยด์ ด้วยเหตุว่า EPA สามารถลดสารที่ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบ ปวด บวมข้อ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการผลิตสารที่มีคุณลักษณะทำให้อาการอักเสบต่างๆของข้อลดน้อยลงได้
ช่วยเสริมลักษณะการทำงานของเซลล์สมอง
นอกจากนี้ ยังช่วยคุ้มครองป้องกันโรคสมองเสื่อม การทานน้ำมันปลาจะมีส่วนคุ้มครองปกป้องโรคสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ได้ เนื่องจาก DHA ช่วยเพิ่มสารที่ช่วยลดการผลิตเส้นใยในสมองอันเป็นต้นตอทำลายใยประสาทส่วนความจำ
ช่วยเสริมการจัดการกับปัญหาสภาวะซึมเศร้า
จากผลการวิจัยพบว่าคนที่บริโภคปลาบ่อยๆโดยตลอด มีอัตราการเป็นโรคซึมเศร้าต่ำ เนื่องจากสมดุลของกรดไขมันภายในร่างกายส่งผลต่อความร้ายแรงของการเกิดโรคซึมเศร้า จากการศึกษาวิจัยพบว่าผู้ที่หรูหรากรดไขมัน Omega-3 ต่ำ แต่ว่า Omega-6 สูง ได้โอกาสเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าปกติ
ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวาน
นักค้นคว้าพบว่ากรดไขมัน EPA ในน้ำมันปลา จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้นได้
ลดอาการปวดไมเกรน
กรดไขมันในน้ำมันปลาจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพรอสตาแกลนดิน รวมทั้งลดการหลั่งสารซีโลโทนิน ทำให้การเกาะตัวของหลอดเลือดน้อยลงในระยะที่มีการบีบตัวของเส้นโลหิตในสมอง ก็เลยบางทีอาจช่วยลดลักษณะของการปวดไมเกรนได้
ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด
การทานน้ำมันปลาจะช่วยลดสารที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการอักเสบ และสารสำคัญที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการหอบหืด โดยเหตุนี้ การกินน้ำมันปลาอย่างสม่ำเสมอจะมีส่วนช่วยทุเลาอาการหอบหืดได้
แก้ไขปัญหาโรคผิวหนังบางชนิดได้
การทานปลาที่มีไขมันมากมายบางทีอาจจะช่วยบรรเทาอาการโรคผิวหนังได้ ยกตัวอย่างเช่น สะเก็ดเงิน โรคเรื้อนกวาง โดยลดอาการคัน ทำให้ผื่นแดงลดลง
คุณประโยชน์ของน้ำมันปลาที่ทุกท่านได้อ่านไปข้างต้น อาจจะทำหลายๆท่านสนใจขึ้นมาเลยก็ได้
น้ำมันรำข้าวประโยชน์จากธรรมชาติ

เพราะเดี๋ยวนี้พวกเรานั้นมักนิยมใช้น้ำมันพืชสำหรับในการทำอาหารเป็นหลัก ก็เลยทำให้บางคราวที่พวกเราเผลอพลั้งบริโภคอาหารแต่ละมื้อเข้าไปในจำนวนมาก บางทีอาจเป็นการเพิ่มระดับแคลอรี่ และไขมันสะสมกระทั่งสามารถส่งผลเสียแก่สุขภาพของพวกเราได้
แพทย์ก็เลยขอนำบทความดีๆถึง น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากรำข้าว น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ มาฝาก เพื่อเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ให้ทุกคนได้ลองนำไปเตรียมอาหารกัน

รู้จักน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากรำข้าวให้มากขึ้น
น้ำมันที่สกัดจากรำข้าว (Rice Bran Oil) เป็นน้ำมันที่ถูกสกัดมาจากส่วนนอกของเมล็ดข้าว ที่เรียกว่า รำ โดยผ่านขั้นตอนเฉพาะทางตามแต่ละผู้สร้างนั้นทำ ซึ่งผู้คนจำนวนมากมักนิยมนำน้ำมันที่สกัดจากรำข้าวมาใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับเพื่อการเอามาประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยเหตุว่าน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากรำข้าวมีระดับแคลอรี่เพียงแค่ 120 แคลอรี่ และก็มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 14 กรัม ที่นับได้ว่าเป็นไขมันที่ดี อยู่ในจำนวนที่สมควรแก่การนำมาเข้าครัวในรายการอาหารต่างๆ
ตามสถาบันโภชนาการ และก็การกำหนดของกิน (Academy of Nutrition and Dietetics) เสนอแนะ ที่สำคัญคุณควรจะได้รับไขมันกลุ่มนี้เพียง 3-10 เปอร์เซ็นต์ เพียงแค่นั้น เพราะเหตุว่าในบางครั้งก็บางทีอาจเปลี่ยนไปเป็นการสร้างผลร้ายแก่สุขภาพร่างกายของพวกเราได้แทน
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากน้ำมันที่สกัดจากรำข้าวที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพ
Ritika Samaddar หัวหน้านักโภชนาการของสถาบันสุขภาพ Max Healthcare ได้บอกว่า น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากรำข้าวที่พวกเรารู้จักกันนั้น อุดมไปด้วยวิตามินอีที่มีสารต้านอนุมูลอิสระประเภท โทโคไตรอีนอล (Tocotrienols) โอไรซานอล (Oryzanol) และ สเตอรอล (Sterols) ในพืชธรรมชาติ ที่บางทีอาจสามารถให้คุณคุณประโยชน์เยอะมากต่อภายในร่างกายของพวกเราได้ ดังนี้
มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ แล้วก็ต้านทานการอักเสบ
เพราะร่างกายของมนุษย์มีโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีหลายอย่างที่บางทีอาจเข้าไปนำไปสู่การอักเสบตามจุดต่างๆของอวัยวะภายใน โดยยิ่งไปกว่านั้นรอบๆเส้นโลหิต จนถึงบางคราวทำให้คนเจ็บมีลักษณะเส้นโลหิตตีบ เม็ดเลือดแดงแข็งตัว ซึ่งก่อให้เกิดการเกิดโรคหัวใจท้ายที่สุด แม้กระนั้นเมื่อคุณมีการรับสารอาหารโอไรซานอล (Oryzanol) ที่อยู่ในน้ำมันที่ทำจากรำข้าวเข้าไป อาจจะทำให้สารดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้มีการไปยับยั้ง และต้านทานปฏิกิริยาขบวนการออกซิเดชัน (Oxidation) ก่อนกำเนิดโรคร้ายตามมาได้สุดท้าย
ต่อต้านเซลล์ของโรคมะเร็ง
จากการศึกษาเล่าเรียนหนึ่งในหลอดทดสอบมีการศึกษาค้นพบว่าสารประกอบโทโคไตรอีนอล (Tocotrienols) จากน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากรำข้าว อาจมีคุณลักษณะสำหรับเพื่อการป้องกันเซลล์ภายในร่างกายจากรังสีไอออไนซ์ (Ionizing radiation) ที่เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งสำหรับการกำเนิดโรคมะเร็งได้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามยังคงจำเป็นจะต้องอยู่มากมายที่นักค้นคว้าจำต้องกระทำหาสิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์ รวมทั้งความจริงถัดไปถึงการใช้น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากรำข้าวมายับยั้งเซลล์ของมะเร็ง
ช่วยเหลือสุขภาพของหัวใจ
สำหรับเพื่อการทดสอบกับอาสาสมัครคนที่เผชิญกับโรคไขมันในเลือดสูง ทีมงานวิจัยนั้นได้ให้พวกเขาทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ แล้วก็น้ำมันที่ทำจากรำข้าวในจำนวน 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน ซึ่งผลของการทดลองสรุปได้ว่า ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกไม่ดี มีอัตราการต่ำลงอย่างชัดเจน เพราะว่าหากหรูหราสูงมากขึ้นนั้นอาจก่อให้เป็นการเพิ่มการเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักตัวคุณได้ด้วยด้วยเหมือนกัน
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากรำข้าวอาจมีส่วนช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเข้าขั้นที่ดียิ่งขึ้น โดยเป็นการเพิ่มแรงต้านทานต่ออินซูลิน เพราะเหตุว่าเนื่องมาจากอินซูลินเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณอาจกำเนิดการเสี่ยงเจอกับเบาหวานประเภทที่ 2 ได้

ผลกระทบจากการใช้น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากรำข้าวที่ควรจะทราบ
จำนวนมากแล้วน้ำมันที่สกัดจากรำข้าวออกจะมีความปลอดภัยแก่หัวหน้ามาบริโภค แต่ว่าบางครั้งนั้นก็บางทีอาจมีผลข้างๆกลุ่มนี้ แก่ร่างกายของคุณได้บางส่วน
รู้สึกป่วยไข้ท้องราว 2-3 อาทิตย์
มีก๊าซในช่องท้อง และไส้
ผื่นแดง พร้อมด้วยอาการคันรอบๆผิวหนัง
ที่สำคัญคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับของกินทางเดินอาหาร หรือมีแผลในกระเพาะ ควรจะงดเว้นใช้น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากรำข้าวโดยเด็ดขาด ด้วยเหตุว่าอาจจะส่งผลให้คุณกำเนิดอาการแพ้อย่างมากได้
สนับสนุนการจัดทำโดย สมัครw88
เรื่องซูชิที่พวกคุณยังไม่รู้

ถึงแม้ซูชิพอคำที่พวกเรานิยมรับประทานกันในปัจจุบันจะเป็นเสมือนตัวแทนของซูชิที่คนทั่วทั้งโลกรู้จักก็ตาม แต่ว่าในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีซูชิมากมายที่มีลำดับการถูกคิดค้นที่ต่างกัน ซูชิบางประเภทได้หายไปพร้อมทั้งซูชิบางชนิดที่เกิดขึ้นมาตามการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต มารู้ลำดับที่ไปที่มากว่าที่จะมาเป็นซูชิในตอนนี้กันคับ

แหล่งเริ่มต้นการเกิดซูชิ
จุดกำเนิดของซูชินั้นเริ่มมาตั้งแต่ก่อนปี ค.ศ. จากการเริ่มปลูกข้าวรวมทั้งการจับปลาตามแม่น้ำและในท้องนาข้าว อดีตไม่มีตู้แช่เย็นและเครื่องทำน้ำแข็งรักษาความสดใหม่ของปลาให้นานๆได้เสมือนปัจจุบันนี้ ทั้งยังปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทางฤดูกาลที่บางทีอาจมีการแห้งแล้งรวมทั้งฝนตกทำให้ไม่อาจจะมีโปรตีนจากปลามารับประทานได้ตลอดทั้งปี จุดเริ่มของซูชิก็เลยเป็นผลมาจากการนำข้าวมาหมักปลาแล้วก็เนื้อสัตว์ ซึ่งแลกติก แอซิดแบคทีเรียตามธรรมชาติในข้าวจะเจริญรวมทั้งเปลี่ยนแป้งข้าวให้เป็นกรดแลกติกซึ่งช่วยคุ้มครองการเน่าของปลารวมทั้งเนื้อสัตว์ได้

ปลาส้มจากทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและก็จีนนับว่าเป็นต้นกำเนิดของซูชิ
คนจำนวนไม่น้อยอาจจะรู้จักปลาส้มที่ได้จากการนำข้าวมาหมักปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดจนมีความเปรี้ยวถึงที่กะไว้แล้วเอามาทอดและก็รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆปลาส้มที่มีต้นกำเนิดจากจีน ไทย ลาว เมียนมาร์และก็มาเลเซียนับว่าเป็นจุดเริ่มการเกิดซูชิในประเทศญี่ปุ่นนี่เอง
การเกิดซูชิต่างๆในญี่ปุ่น มีลำดับดังนี้

นะเร ซูชิ (Nare-Zushi) เป็นต้นเกิดของซูชิในประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากของกินบริเวณลุ่มน้ำโขง (ราวๆปี คริสต์ศักราช 700) นะเร ซูชิมีลักษณะซึ่งคล้ายกับปลาส้มที่ได้จากการนำปลา ข้าวสุกและก็เกลือมาหมักกระทั่งกำเนิดข้าวหมักและก็ปลารสเปรี้ยว การกินนะเร ซูชินั้นจะต้องเอาข้าวหมักทิ้งรวมทั้งกินเพียงแต่เนื้อปลา ทุ่งนาเระ ซูชิที่โด่งดังนั้นเป็น ฟุนะซูชิ ซึ่งใช้ปลาฟุนะ (ปลาเครือญาติปลาตะเพียน) หมักอาหารโดยช่วงเวลาการดองนั้นใช้เวลาตั้งแต่ 1-4 ปี แม้ว่าจะมีกลิ่นเหม็นมากมายแม้กระนั้นฟุนะซูชิจัดเป็นของกินหรูราคาสูงที่หารับประทานได้เพียงพื้นที่จังหวัดชิกะ (Shiga)
นามะ นะเร ซูชิ (Nama Nare-Zushi) (โดยประมาณปี คริสต์ศักราช 1500) เป็นซูชิที่เกิดขึ้นมาจากการนำข้าวมาหมักกับปลาแบบเดียวกันแต่ว่าใช้เวลาสำหรับเพื่อการหมักลดน้อยลงเป็นโดยประมาณ 1 เดือน โดยการหมักดองนั้นจำเป็นต้องอาศัย w88 การกดทับโดยของหนัก สามารถกินทั้งข้าวแล้วก็ปลาได้

ฮายะ ซูชิ (Haya-zushi) (ราวปี คริสต์ศักราช1600) เป็นซูชิที่ใช้เวลาหมักราวๆ 24 ชั่วโมง ฮายะ ซูชิเป็นต้นแบบของซูชิที่ใช้น้ำส้มหมักผสมข้าวแทนการหมักดองแบบธรรมชาติที่นำปลาที่ผ่านการปรุงรสมาวางไว้ข้างบนข้าวก่อนที่จะกดทับด้วยของหนัก ตอนนี้ซูชิจำพวกนี้เป็นซูชิขึ้นชื่อตามเขตแดนที่ชาวญี่ปุ่นนิยมกินและก็ซื้อเป็นของฝาก นอกเหนือจากหน้าปลาแล้วยังมีหน้าผักและก็หน้าต่างๆตามแต่พื้นที่

ฮะโกะ ซูชิหรือโอะชิ ซูชิ (Hako-zushi หรือ Oshi-zushi) (ราวปี คริสต์ศักราช1700) เป็นซูชิที่นำปลาที่หั่นบางๆมาวางทับบนข้าวซึ่งใส่เอาไว้ในกล่องสี่เหลี่ยมแล้วก็กดทับด้วยแผ่นไม้หรือมือ และหลังจากนั้นก็ค่อยนำซูชิมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเพียงพอคำเพื่อกิน กระบวนการทำซูชิประเภทนี้ใช้เวลาที่สั้นลงโดยใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็สามารถนำซูชิมากินได้

นิกิริซูชิ ( Nigirizushi) (ราวๆปี คริสต์ศักราช1800) เป็นซูชิพอคำที่ได้จากการนำข้าวสวยมาผสมน้ำส้มหมักรวมทั้งปั้นเป็นก้อนกลมรีรวมทั้งมีปลาดิบที่หั่นบางๆวางเอาไว้ที่ด้านบนข้าว ซูชิประเภทนี้ถูกสร้างสรรค์โดยเชฟคนที่ใครๆก็รู้จักคือ Hanaya Yohei ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปี คริสต์ศักราช 1799-1858 ว่ากันว่าในยุคเอโดะนั้นบ้านเมืองมีความก้าวหน้าเยอะขึ้นรวมทั้งมีพลเมืองมากขึ้นสูงสุด ผู้คนจำเป็นต้องทำงานเพื่อการพัฒนาประเทศ ของกินที่เป็นฟาสต์ฟูดอย่างนิกิริซูชิก็เลยได้รับความนิยมของชาวญี่ปุ่น
นิกิริซูชิก้อนกลมรีที่กินง่ายรวมทั้งอิ่มท้องไวถูกเอามาวางจำหน่ายไว้ตามตลาดหรือจุดที่คนมารวมตัวกันของคนภายในเมืองโตเกียว ดังนี้ได้มีการสร้างสรรค์หน้าของนิกิริซูชิจากเพียงแต่หน้าปลาดิบไปเป็นหน้าอาหารทะเลต่างๆแล้วก็มีเชฟซูชิเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ภายหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในคันโตเมื่อปี คริสต์ศักราช1923 เชฟนิกิริซูชิจากเมืองโตเกียวย้ายถิ่นที่อยู่ฐานหนีแผ่นดินไหวรวมทั้งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นิกิริซูชิได้แปลงเป็นซูชิที่ได้การนิยมจากชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศที่ต่อเนื่องมาจนกระทั่งตอนนี้
หม้อทอดไร้น้ำมัน ดีต่อสุขภาพจริงหรือ

ปัจจุบันนี้หม้อทอดไร้น้ำมันถือได้ว่าเครื่องใช้ในบ้านยอดนิยมอย่างยิ่ง นอกเหนือจากที่จะมีขนาดที่เล็กไม่สิ้นเปลืองพื้นที่สำหรับในการวางแล้ว ยังมีระบบการทำงานที่ค่อนข้างจะสบาย ซึ่งการทำงานภายในตัวของอุปกรณ์นี้ ทำงานโดยพลังงานไฟฟ้ามาเปลี่ยนสภาพเป็น ลมร้อน ที่มีอุณหภูมิสูง เป็นเหตุให้เกิดปฏิกิริยาอะไรบางอย่างที่เรียกว่า เมลลาร์ด (Maillard effect) เป็นปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกรดอะมิโน และน้ำตาลรีดิวซ์ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับความสุกของอาหาร แล้วก็รสชาติของของกิน ถือเป็นการประกอบอาหารอีกแบบให้แก่ผู้รักสุขภาพที่ต้องการจะลดไขมัน แล้วก็แคลอรี่ได้
คุณประโยชน์ของการใช้ หม้อทอดไร้น้ำมัน
- ดีต่อการลดน้ำหนัก
- กำจัดไขมันในอาหาร
- ลดการก่อตัวของสารอันตราย
หาเงินซื้อหมอทอดไร้นำ้มันที่ betway
“แป้ง” กินให้ถูกวิธีทำให้ผอมได้

ในตอนนี้ อาหารคลีน กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักอาหารเพื่อคนที่รักสุขภาพมากมาย ซึ่งได้รับความนิยมมากมายในบรรดากลุ่มคนที่ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายรวมทั้งควบคุมน้ำหนักโดยอาหารคลีนที่ดีหนึ่งจาน ควรประกอบไปด้วยผักใบเขียวและผลไม้ เนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ รวมทั้งคาร์โบไฮเดรตหรืออาหารกลุ่มแป้ง ที่ทำหน้าที่สำคัญต่อภาวะความอ้วน-ผอม ของร่างกายเป็นอย่างมาก แต่ว่าในสภาวะของการควบคุมน้ำหนัก พวกเราก็สามารถเลือกทานอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต หรือกลุ่มแป้งยังไงให้ผอมได้นะคะ !!

ผู้เชี่ยวชาญด้านการโภชนาการอาหารชี้แนะให้คนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตหรือของกินกลุ่มแป้งกลุ่มดี (Good Carbs) ตัวอย่างเช่น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน 123bet ซึ่งเป็นกลุ่มของกินคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อร่างกาย รวมทั้งดีต่อการควบคุมน้ำหนัก เป็นของกินกลุ่มแป้งที่ยังไม่ผ่านวิธีดัดแปลงด้านอุตสาหกรรม หรือผ่านกรรมวิธีการขัดสีน้อย ดังเช่นว่า ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง แป้งขัดสีน้อย ถั่ว รวมทั้งเมล็ดพืชต่างๆผักใบเขียว พืชที่มีฝัก มัน เผือก หรือฟักทอง โดยจำนวนที่สมควรนักโภชนาการชี้แนะให้รับประทานราวๆ 8-10 ทัพพี
โดยของกินกลุ่มคาร์โบไฮเดรตหรือของกินกลุ่มแป้งจำพวกดี (Good Carbs) จะถูกดัดแปลงมาไม่มากนัก หรือถูกขัดสีน้อย ก็เลยอุดมไปด้วยเส้นใยหรือกากใยอาหาร แร่ธาตุ และก็วิตามินแบบเต็มๆเมื่อรับประทานเข้าไป ร่างกายก็จะย่อยได้อย่างช้าๆย่อยอย่างค่อยๆเป็น ค่อยๆไป การที่ร่างกายย่อยแล้วก็ดูดซับพลังงานได้อย่างช้าๆนี่เอง ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานส่งไปสู่กระแสโลหิตอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ รับประทานแล้วรู้สึกอิ่มนาน อีกทั้งยังดีต่อร่างกายของกระบวนการย่อยอาหาร เนื้อจากกากใยอาหารจะช่วยดูดซึมพิษในลำไส้และก็ถ่ายออกมาด้านนอกร่างกาย
เมนู อาหารใต้ที่คุณต้องลอง

ปัจจุบันนี้ หากพูดถึงเรื่องของอาหาร ของกินที่มีรสชาติจัด ไม่ใช่แค่ของกินอีสานแค่นั้น มันยังมีของกินใต้ที่ขึ้นชื่อลือนามเป็นอย่างมากเรื่องของความแซ่บ และก็ความอร่อย หากเอ๋ยถึงอาหารใต้ มั่นใจว่าคนจำนวนไม่น้อยก็จะต้องนึกถึงความเผ็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของของกินใต้ รวมถึงเครื่องแกง ส่วนประกอบ วัตถุดิบต่างๆสำหรับในการทำอาหาร เป็นของกินที่ครบถ้วนบริบูรณ์ วันนี้เว็บอีสานมากมายก่ายกอง ของพวกเรา ก็จะมาชี้แนะรายการอาหาร ของกินใต้ที่ได้รับความนิยม 5 รายการอาหาร จะต้องทดลองให้ได้
พวกเรามาทดลองดูกันครับผมว่า รายการอาหารที่พวกเราชูมาในวันนี้ มันจะมีรายการอาหารอะไรบ้าง รวมทั้งสหายๆเองเคยทานรายการอาหารไหนกันบ้างพวกเราลองแชร์กันครับผม ซึ่งแต่ละรายการอาหารที่พวกเราชูมาในวันนี้บอกเลยว่า แต่ละรายการอาหารมีแม้กระนั้นอร่อยๆทั้งหมด ถ้าหากว่าเพื่อนฝูงๆต้องการจะทดลองทานก็ทดลองไปพบทานได้เลย
1.อาหารใต้ยอดนิยม สะตอผัดกะปิกุ้งสด
ถ้าเกิดกล่าวถึงของกินใต้ที่มีรสชาติจัดจ้า หลายท่านอาจไม่ลืมเลือนที่จะรำลึกถึงสะโคนผัดกะปิใส่กุ้งแน่ๆ เป็นอีกหนึ่งรายการอาหารของของกินใต้ที่มีรสชาติรุนแรง เรื่องของรส มีอีกทั้ง ความเค็ม เปรี้ยว เผ็ด มัน หวานนิดหน่อย มีความหอมประสมประสานจาก กะปิ พริกแห้ง และก็สะโคน เป็นรายการอาหารที่ได้รับคุณประโยชน์ทางโภชนาการที่สูงมากมาย เพราะเหตุว่าสะโคน เป็นผักท้องถิ่นที่นิยมใส่หมู หรือกุ้ง เพิ่มอีกลงไปเพื่อได้รับโปรตีนมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งรายการอาหารที่มีคุณค่าแก่การมาทานมากมายๆทานคู่อาหารงามสักจาน บอกเลยว่ามื้อนี้ไม่ได้อยากอะไรเพิ่มแล้ว

2.อาหารใต้ที่ได้รับความนิยม แกงเหลือง
แกงเหลืองสิเหลืองอ๋อย น่าอร่อยเป็นอันมาก เป็นของกินจานอร่อยและก็ ของกินใต้ยอดฮิต
แกงเหลือง ของกินรสอร่อยจากทางภาคใต้
ถ้าเกิดกล่าวถึงของกินใต้ แล้วไม่เอ่ยถึงแกงเหลืองก็น่าจะไม่มีทางเป็นไปได้ แกงเหลืองหรือแกงส้มภาคใต้ มีไม่เหมือนกันจากแกงส้มภาคอื่นๆเนื่องจากว่าใช้พริกแกงส้มที่มีส่วนผสมของขมิ้น โน่นทำให้แกงมีสีเหลืองก็เลยมีชื่อเสียงว่าแกงเหลือง มักใช้แกงกับหน่อไม้ดอง มะละกอ ไหล บัว บอน หรือ ผักอันอื่นตามที่ใจต้องการของพวกเรา เพิ่มโปรตีนด้วย กุ้ง หรือ ปลาสด ปลาที่นิยมเอามาทำเลที่ตั้งยก็เป็นปลากระดง ปลานิล ปลากระบอก ปลาดุก อย่างเดียวกันรสก็จัดจ้า ตามสไตล์ของกินใต้ โดยยิ่งไปกว่านั้นแกงเหลืองหน่อไม้ดอง จะนิยมกันเป็นพิเศษ

3.ขนมจีนน้ำยาใต้
ขนมจีนนำยาใต้ มีของเคียง ไข่ต้ม ถั่วค้างรวมทั้งผักประเภทต่างๆน่าอร่อย
ขนมจีนนำยาใต้ มีของเคียง ไข่ต้ม
ถ้าหากว่าเอ๋ยถึงขนมจีนน้ำยา ผู้คนจำนวนมากก็จะรำลึกถึงขนมจีนน้ำงู ของกินขึ้นชื่อลือชาของภาคเหนือ แน่ๆที่ภาคใต้ก็มีขนมจีนลือชื่อด้วยเหมือนกัน โน่นเป็นรายการอาหารขนมจีนน้ำยาใต้ เป็นน้ำยากะทิแบบคนใต้ ใช้เครื่องแกงน้ำกะทิภาคใต้ ตามสเต็ปเลยขอรับสีเหลือง รสเข้มข้นหอมพริกแกงหอมใบมะกรูด ที่สำคัญเลยเป็นเนื้อปลา เมื่อเอามาต้มรวมกับเครื่องแกงจะให้ความหอมเป็นอย่างมาก เวลากิน และก็ความฟูของเนื้อปลาจะก่อให้รสมีความกลมกล่อมกับน้ำกะทิ เค็มมัน บางสูตรบางทีอาจปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงใส่เป็นเนื้อปูก็อร่อยแบบเดียวกัน อร่อยไปอีกในลัษณะหนึ่งทานคู่กับผักพื้นเมืองภาคใต้ เช่น ผักกาดดอง ลูกเหลียง ไชโป๊ ผักสดต่างๆอร่อยเป็นอย่างมากเลยครับผม

4.แกงไตปลา
แกงไตปลารสอร่อยจัดจ้า จานอร่อยจากดินแดนใต้ส่งเข้าแข่งขัน เสริฟกับมะเขือ สะโคน ถั่วค้าง
แกงไตปลารสอร่อยจัดจ้า
จบท้ายกันด้วยรายการอาหารท้ายที่สุดมันก็คือแกงไตปลา เป็นรายการอาหารลือชื่ออย่างยิ่งสำหรับของกินใต้ แกงไตปลา เป็นแกงที่ใช้กระเพาะของปลามาทำ อาทิเช่นปลาทู ปลาคัง และก็ ปลาสมุทรอื่นๆเอามาดัดแปลงรักษาอาหารหมักกับเกลือ เอามาทำน้ำพริกรวมถึงแกงไตปลายอดนิยม บางสูตรก็ใส่น้ำกะทิเล็กน้อยก็บางครั้งอาจจะไม่ใส่สุดแท้แต่ รสของแกงไตปลา จะมีรสชาติที่กลมกล่อมละมุนละไมๆเค็มไตปลาหมัก ตามสเต็ปของของกินใต้ควรจะมีรสเผ็ด แม้กระนั้นเครื่องแกงไม่เร่าร้อนเท่าแกงเหลือง หากมีแกงไตปลาเสิร์ฟคู่กับขนมจีนหรือข้าวบอกเลยว่ามื้อนี้อร่อยมาก
จบไปแล้วครับกับ 5 เมนูอาหารภาคใต้ ยอดนิยมอย่างยิ่ง คนไม่ใช่น้อยน่าจะรู้อยู่แล้วว่าของกินใต้มีรสชาติเผ็ด โดยเหตุนี้ถ้าหากว่าต้องการจะทดลองก็จำต้องเตรียมความพร้อมให้ดีๆความเผ็ดของของกินของชาวภาคใต้ไม่ธรรมดา เรื่องของรสของกินหากเป็นผู้ที่ชอบใจทานเป็นอย่างมากเพราะมัน อร่อยสุดๆ

5 อันดับอาหารตามสั่งสิ้นคิด

เวลาไปนั่งร้านข้าวอาหารตามสั่งหลายๆคน จะถามเพื่อน หรือ ถามตัวเองว่าวันนี้กินอะไรดี หลายๆคนอาจไม่ต้องคิดเลย เพราะเป็นอาหารสิ้นคิด 555
1.ผัดกระเพรา
มาเป็นอันดับที่1 สำหรับกระเพราไข่ดาว ที่รส เผ็ดจัดจ้า แล้วยังเป็นรายการอาหารที่เร็ว ทันใจ แทบทุกหนทุกแห่งทุกคนที่เพียงพอถึงเวลาทานข้าวแล้วคิดไรไม่ออก ว่าต้องการรับประทานไร ถ้าอย่างนั้นจัดนี่เลย กระเพราไข่ดาวไปเล๊ย 5555 แอดไม่นถูกใจสั่งป้าค่ะ ขอผัดกระเพราหมูเผ็ดๆ1 จานขา ย้ำว่า เผ็ดๆ55 แอดมินถูกใจรับประทานเผ็ดนะ ไม่เผ็ดมันไม่อร่อยเนาะว่ามะ

2.คะน้าหมูกรอบ
รายการอาหารนี้มีตั้งแต่ว่าคะน้าหมูกรอบ กระเฉดหมูกรอบ ผักบุ้งหมูกรอบ บางบุคคลไม่รับประทานหมูก็บางครั้งก็อาจจะกลายเป็นไก่ได้ เป็นรายการอาหารยอดนิยมในระดับต้นๆด้วยเหมือนกัน ค่าที่ว่ารับประทานง่าย อร่อย ได้สารอาหารครบถ้วนบริบูรณ์ทั้งยังเนื้อ อีกทั้งผัก ทั้งยังข้าว กันอย่างยิ่งจริงๆจ้ะ

3.ข้าวหมูกระเทียม
อันนี้เป็นรายการอาหารไม่มีความคิดที่ผู้หญิงมักถูกใจสั่ง มีความรู้สึกว่าคงจะเป็นเพราะว่าความอร่อยของเนื้อหมูที่เอามาทอดในซอสน้ำมันหอยคลุกกับพริกไทย เสร็จแล้วเอามาโปะอาหารงามร้อนๆรับประทานกับแตงร้าน ถ้าหากต้องการเพิ่มความพิเศษให้กับรายการอาหารบางครั้งก็อาจจะสั่งไข่ทอดมาเพิ่มได้ ถ้าหากรับประทานช่วงกลางวัน ก็อิ่มไปถึงเย็นเลย แถมด้วยน้ำซุปด้วย อร่อยเลย

4.ข้าวไข่เจียว
รายการอาหารที่รีบร้อน จานด่วนก็ว่าได้ เนื่องจากไม่ต้องแต่งตั้งวัตถุดิบไรมากมาย เพียงแค่เพิ่มน้ำปลากับ ผงแต่งรส นิดนึงเท่านี้ก็อร่อยลืมกันอย่างยิ่งจริงๆ บางบุคคลถูกใจหยดซอสพริก หรือ ซอสมะเขือเทศเล็กๆน้อยๆโอ้วววจัดว่าเด็ดจ้ะ ยิ่งไข่เจียวกรอบๆด้วยแล้ว เป็นฟินมาก

5.ผัดพริกแกง
รายการอาหารสิ้นคิดอีกอันที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ถูกใจรับประทานอะไรเผ็ดๆบ่อยๆอยู่แล้ว รับประทานไปซู้ดปากไป แม้กระนั้นก็มีคนไม่ใช่น้อยที่รังเกียจรับประทานเผ็ดมากสักเท่าไรนักก็เลยหลีกเลี่ยงที่จะสั่งมารับประทาน รายการอาหารนี้ก็เลยเป็นที่นิยมอยู่ในชั้นกลางผัดพริกแกงบางทีอาจจะเพิ่มไข่ดาวไปด้วยเพื่อเพิ่มความอร่อยคละเคล้ากัน บางทีก็อาจจะกลายเป็นผัดพริกแกงหมูใส่ผักบุ้งก็ได้นะ แอดมินชอบสั่งรับประทานประจำ 55

ปนะวัติ ชาบู

Sha Bu Sha Bu
ชาบูชาบู(สุกี้) มีในประเทศประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 โดยมีห้องอาหารชาบูชาบู ร้านค้าแรกเกิดในโอซาก้าโดยเป็นการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากของกินลัษณะเดียวกัน ที่มีต้นกำเนิดที่จีน แหล่งกำเนิดคำว่า “ชาบู”
การสันนิษฐานมีอยู่ว่า
1. บ้างก็ว่าเป็นคำเรียกในวงการไอทีเอาไว้ยกย่องศาสดาสตีฟ จอบส์ ตัวอย่างเช่น เมื่อมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆพวกเหล่าสาวกก็จำต้องรีบเข้าไป ชาบู ชาบู หรือ บูชา กันนั่นเอง
2. แหล่งกำเนิดชาบู มาจากโจ๊กโซคูลเองนะครับ ในช่วงเวลานั้นพวกชาวเวบประมูล มีคนนึงได้ทราบจะ HI5 ของโจ้ก ก็เลยเอามาบอกกันในเวบประมูล พวกชาวเวบประมูลก็เลยเข้าไปบูชาโจ๊ก ในhi5 ของโจ๊ก ปานกลางคำบูชากันเพิ่มมากขึ้น โจ๊กก็เลยเข้ามาตอบว่า เมื่อมาบูชากันแล้ว อย่าลืมเอาชาบูมาฝากด้วย นั่นแหละนะครับเป็นแหล่งกำเนิดของคำว่า ชาบู
3. แปลงเป็นคำในกระดานสนทนา เพื่อเชื้อเชิญยกคนที่ให้ข้อมูลได้ละเอียดรวมทั้งทราบจริง จะต้องรีบเข้าไปบูชา ชาบูๆกันนั่นเอง
4. บางก็ว่ามาจากของกินประเทศญี่ปุ่น ชาบูชาบู เกิดที่เมืองโอซาก้า ญี่ปุ่น โดยคุณสุเอฮิโร่ เมื่อปีคริสต์ศักราช1952 ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากหม้อไฟของกรุงปักกิ่ง ประเทศ จีน (涮羊肉 shuเn yแng r๒u)ซึ่งใช้เนื้อแกะชาบูชาบู เป็นอาหารสำหรับคนรักสุขภาพของประเทศญี่ปุ่นโดยใช้เนื้อ(โค, หมู, ไก่, ปลา,…) เอามาเฉือนบางๆแล้วนำลงไปแกว่งไกวในน้ำซุปร้อนๆให้เพียงพอสุกพอดีแล้วจิ้มน้ำปรุงรสดื่มน้ำจิ้มชาบูชาบูมี 2จำพวกเป็น น้ำปรุงรสปอนซึ จะมีรสเค็มอมเปรี้ยว รวมทั้งน้ำปรุงรสงา มีรสหอม

คำว่า Shabu-shabu คือเสียงในตอนที่เอาตะเกียบคืบเนื้อปาดบางๆแล้วจุ่มในน้ำแกว่งมือไปๆมาๆ ทำให้มีการเกิดเสียงชาบุชาบุขึ้น เนื้อบางๆลวกเพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็สุกแล้ว (แช่บ!!!) เว้นแต่เนื้อแล้ว ก็จะมีผักสดๆที่นิยมใส่เป็น เห็ดหอมสด เห็ดเข็มทองคำ ผักกาดขาวแล้วก็เต้าหู้ ส่วนน้ำซุปก็จะเป็น ซุปคมบุ เป็น สาหร่ายทะเลประเภทหนึ่ง
สำหรับบางบุคคลที่ไม่รับประทานเนื้อวันก็สามารถสั่งเนื้อหมูมาแทนได้ แต่ว่าคนทีรับประทานเนื้อวัวได้ แบงค์ขอชี้แนะให้ทดลองรับประทานเนื้อวัวที่ปาดมาอ้อนแอ้นๆจิ้มกับน้ำปรุงรสที่มีอีกทั้งพอนซุและก็น้ำปรุงรสงับดคละเคล้ากับมาสตาดมันอร่อย(สุโค่ยยยยยยย)
しゃぶしゃぶ ชาบู ชาบู
(Shabu-shabu)
รสจากส่วนประกอบธรรมชาติจะถูกดึงออกมาโดยแช่เอาไว้ภายในน้ำร้อนอย่างเร็ว สิ่งที่ยั่วยวนใจความพึงพอใจของชาบู ชาบูเป็นอร่อย แม้วิธีการเตรียมไม่ยุ่งยากแล้วก็เรียบง่ายก็ตาม ชาบู ชาบูมีสูตรที่ง่ายดาย เพียงแต่จุ่มเนื้อหั่นบางๆในน้ำซุปร้อนๆ
น้ำปรุงรส ชาบูชาบูมี 2 ประเภทเป็น
1. “น้ำปรุงรสงา” จะมีส่วนผสมหลักก็คือ งาอบขาว, กระเทียมบด แล้วก็โชยุ
2. “น้ำปรุงรสปอนซึ” (โชยุผสมน้ำส้มสายชู) จะมีรสเค็มอมเปรี้ยว แล้วก็น้ำปรุงรสงา มีรสหอมนุ่มกลิ่นงาให้ได้รสจะออกเปรี้ยวๆซ่าๆที่ลิ้น
แนวทางรับประทาน เริ่มจากการใส่ผักลงไปต้มในหม้อก่อนเพื่อน้ำซุปได้รสหวานของผัก แล้วหลังจากนั้นก็ให้นำเนื้อลงไปลวกรับประทาน (อารมณ์คล้ายกับลวกจิ้มจุ่มบ้านพวกเรานั่นแหละ) ในเวลานี้เองที่น้ำซุปจะหอมหวานเข้มข้น ต่อไปก็ใส่เส้น หรือข้าวลงไปในน้ำซุป
“ชาบูชาบู” เป็นที่ชอบใจของคนญี่ปุ่นมากมาย ก็เลยนิยมกินกันเป็นประจำเสน่ห์ของ “ชาบูชาบู” เป็นขั้นตอนการกิน ซึ่งจะมีการนำเอาหม้อไฟมาตั้งชันกึ่งกลางแล้วนั่งล้อมวงปรุงไปกินไป “ชาบูชาบู” ก็เลยเป็นของกินที่เหมาะสมในวันที่อากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวที่มีหิมะโปรยปรายลงมา เพราะว่าจะมีผลให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นนั่นเอง
◆ท้องนาเบะแบบชาบู ชาบู
กึ่งกลางของท้องนาเบะจะเป็นปล่องไฟในตอนที่ส่วนที่มีน้ำซุปมีลักษณะเสมือนโดนัท
◆ซอสงา หรือ ซอสพอนซึ
ซอสงาทำมาจากการละลายน้ำงับด แล้วก็ซอสพอนซึเป็นซอสถั่วเหลืองแต่งรสส้ม ทั้งคู่จะถูกประยุกต์ใช้เป็นซอสจุ่ม
◆ปลาทองอ่อน สาหร่ายทะเล
ไม่เพียงแค่เนื้อสิ่งเดียว ปลาทองอ่อนที่มีไขมันอยู่จำนวนมากแล้วก็สาหร่ายทะเลรสอร่อยก็สามารถทานได้ในตอนที่อร่อยกับชาบู ชาบู
ชาบู ชาบูเป็นอย่างไร
วิธีการปรุงที่สามารถนำมาใช้กับเนื้อและส่วนผสมอื่นๆและดึงเอาความชุ่มฉ่ำจากส่วนผสมจากธรรมชาติ
ชาบู ชาบู
ชาบู ชาบูเป็นชนิดของของกินแบบที่นาเบะ (หม้อไฟ) ซึ่งส่วนประกอบดังเช่นว่าผักรวมทั้งเนื้อตัดบางๆรวมทั้งอาหารทะเลจะถูกแช่ลงในน้ำเดือดหรือน้ำซุปดาชิ และก็ไม่มีความสนใจใว้ให้ต้มชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นต้มส่วนประกอบดังเช่นเต้าหู้ ผัก ค้างซุคิริ (บะหมี่คูสุเย็น) เข้าด้วยกัน แล้วกินโดยจุ่มลงในซอส น้ำซุปดาชิจะใช้ในชาบู ชาบู โดยหลักการเป็นน้ำซุปสาหร่ายทะเลคอมบุ คอมบุจะถูกใส่ลงไปในทุ่งนาเบะที่เพิ่มเติมน้ำแล้ว อุ่นโดยใช้ความร้อนต่ำ เพื่อดึงเอาความเย็นฉ่ำของคอมบุออกมา คอมบุจะถูกนำออกมาในทันทีก่อนที่จะน้ำเริ่มเดือด ในตอนนี้ชาบู ชาบูที่ใช้นมถั่วเหลืองและก็น้ำซุปสุกี้ยากี้เปลี่ยนเป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน น้ำส้มสายชูพอนซึและก็ซอสงาเป็นซอสที่ใช้บ่อยมากที่สุด แต่ว่าซอสที่เป็นเอกลักษณ์เริ่มแรกดังเช่นซอสที่ทำด้วยน้ำมันงา น้ำปลา และก็แอนโชวี่ยังคงได้รับความนิยม ชาบู ชาบูที่ใช้เนื้อโคเรียกว่า “กิวชาบู” รวมทั้งชาบู ชาบูที่ใช้เนื้อหมูจะเรียกว่า “บูตะชาบู” เนื้อสัตว์ที่ใช้จะเป็นเนื้อสดซึ่งสามารถทานดิบได้
ชาบู ชาบูที่ใช้ส่วนประกอบอื่นๆเว้นเสียแต่เนื้อสัตว์จะมีอาหารทะเลดังเช่นว่า ปลาทองอ่อน ปลาปักเป้า ปลาหมึก ปลาตะเพียนสมุทร และก็ปูหิมะ คุณสามารถอร่อยกับชาบู ชาบูได้ตลอดทั้งปีรวมทั้งในมากมายทาง; จากห้องอาหารหรูที่ใช้เนื้อที่มีแบรนด์ดังไปจนกระทั่งห้องอาหารที่ให้บริการชาบู ชาบูแบบทานได้ทุกๆอย่างในราคาที่ไม่แพง เหตุเพราะน้ำส้มสายชูพอนซึแล้วก็ซอสงาสามารถหาซื้อได้ทั่วๆไปในร้านขายของ ชาบู ชาบูก็เลยแปลงเป็นของกินในครอบครัวที่ได้รับความนิยมเนื่องจากว่ากรรมวิธีการเตรียมการที่ง่าย บาคาร่าออนไลน์
คำว่า “ชาบูชาบู” เป็นของกินทั่วๆไปยอดนิยมไม่เฉพาะแต่เฉพาะในประเทศประเทศญี่ปุ่น แต่ว่ายังเป็นที่นิยมในบริเวณที่มีคนญี่ปุ่นได้ไปอาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ(ที่พวกเรามักเรียกว่า “Little Tokyos” หรือ “Japantowns”)ดังเช่นว่าสหรัฐฯ แคนาดา รวมทั้งเมืองไทยของพวกเราด้วย และก็ขณะนี้ในประเทศไทยของพวกเราก็ได้มีนานัปการร้านค้าชาบูที่ให้ลิ้มรส แม้กระนั้นได้มีการดัดแปลงแก้ไขน้ำปรุงรสแล้วก็มีการเพิ่มลูกชิ้นต่างๆลงไปในหม้อ แล้วพวกเราก็มาเรียกกันว่าเป็นสุกี้ไทย (หรือจิ้มจุ่มนั่นเอง)
ในปี1955 Suehiro ได้ขึ้นทะเบียนชื่อของชาบูชาบูที่เป็นตรา จากนั้นทั้งยังชื่อ”ชาบูชาบู”และก็ความชื่นชอบสำหรับการรับประทานชาบูชาบูก็ได้แพร่ขยายอย่างเร็วไปทั่วภูมิภาคทวีปเอเชีย